สมาร์ทคาร์ด เป็นบัตรพลาสติกชนิดหนึ่ง มีขนาดเท่ากับ บัตรเครดิต หรือ บัตรเอทีเอ็ม แตกต่างกันตรงที่มีการฝังชิปไว้บนบัตรด้วย ซึ่งในตัวชิปนี้สามารถบันทึกข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ และมีการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี บัตรสมาร์คาร์ดเป็นบัตรชำระเงินที่มีซิพคอมพิวเตอร์ติดอยู่ ซึ่งชิพอันนี้จำหน้าที่คล้ายเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วบนบัตร หน่วยความจำและความสามารถในการประมวลผลของชิพจะเปลี่ยนรูปแบบของการชำระเงินด้วยบัตร โดยชิปจะสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าแถบแม่เหล็กที่บัตรชำระเงินทั่วไปใช้อยู่ในปัจจุบันถึง 80 เท่า เป็นอย่างน้อย
คอมพิวเตอร์ชิพต่างจากแทบแม่เหล็กตรงที่ว่าชิพสามารถเก็บข้อมูล และ ประมวลผลข้อมูล ขณะที่แทบแม่เหล็กจะเก็บข้อมูลได้เพียงอย่างเดี่ยว และเนื่องจากโปรแกรมการใช้งานที่ติดตั้งไว้ในชิพนี้จะใช้ซอฟท์แวร์ที่แตกต่างกันไป จึงทำให้บัตรใบเดี่ยวกันนี้สามารถใช้งานได้ในหลายลักษณะในเวลาเดี่ยวกัน
นอกเหนือไปจากนี้บัตรสมาร์ทคาร์ดเป็นวิธีการชำระเงินให้ความปลอดภัยมากขขี้นเนื่องจากสามารถป้องกันการลักลอบนำข้อมูลของผู้ถือบัตรไปใช้ในทางที่มิชอบ
ประเภทของบัตรสมาร์ทคาร์ด
สมาร์ทคาร์ดแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
บัตรสมาร์ทคาร์ดทำอะไรได้บ้าง
บัตรสมาร์ทคาร์ดเป็นบัตรบัตรชำระเงินที่สามารถใช้งานได้หลากหลายซึ่งเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ถือบัตรเป็นอย่างมาก และยังเป็นรูปแบบของบัตรชำระเงินที่ให้ความปลอดภัยสูงสุดในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังสามารถเป็นทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต บัตรสะสมแต้มคะแนนได้ในใบเดี่ยวกัน เมื่อถึงตอนนั้น เราจะสามารถจัดการกับธุระส่วนตัวหรือเรื่องงานแม้ในระหว่างการเดินทางระหว่างประเทศได้ด้วยบัตรใบเดี่ยว
บัตรสมาร์ทการ์ดยังสามารถใช้ยืนยันความเป็นเจ้าของบัตรที่แท้จริง ขณะที่บัตรชื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตเพื่อความปลอดภัย และเพื่อนให้สามารถทำธุรกรรมได้ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ตาม การชำระเงินผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยบัตรสมาร์ทการ์ดมีขึ้นครั้งแรกในปี 2540 นับตั้งแต่นั้นมาบัตรสมาร์ทการ์ดก็ได้รับการพัฒนาและทดสอบเรื่อยมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้จริง
ในประเทศต่างๆ รัฐบาลและภาคเอกชนได้หันมาใช้บัตรสมาร์ทการ์ดเป็นบัตรประเภทต่างๆ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน บัตรโดยสารขนส่งมวลชน และบัตรสะสมคะแนนต่างๆ
ขณะนี้มีการใช้บัตรสมาร์ทคาร์ดที่ใดบ้าง
บัตรสมาร์คาร์ดมีใช้กันอย่างแพร่หลายในยุโรปมาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 บริษัทที่ให้บริการบัตรชำระเงินหลายแห่งกำลังเปลี่ยนจากบัตรเครดิตที่ใช้แถบแม่เหล็กแบบปัจจุบันเป็นบัตรติดชิพ ในสหรัฐอเมริกาเองก็มีโครงการทดสอบการใช้บัตรสมาร์ทการ์ดอยู่หลายโครงการ และในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกนีิ้ ก็มีบัตรสมาร์ทการ์ด ออกใช้แล้วหลายล้านใบในปัจจุบัน ประเทศออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน มาเลเซีย และ สิงค์โปร์กำลังเพิ่มการออกบัตรชำระเงินที่บัตรติดชิพซึ่งสามารถใช้งานได้ในหลายลักษณะ โดยสามารถใช้เพื่อชำระเงินเพื่อประโยชน์อย่างอื่นก้วยก็ได้ เช่น เป็นบัตรโดยสารรถขนส่งมวลชน บัตรประกันสุขภาพ และ บัตรประจำตัวประชาชน
ที่มา : th.wikipedia.org/wiki/สมาร์คการ์ด
www.mymoneyskills.com/mms/th/using_your_cards_wisely/smartcardfuture.shtml