รัฐพร้อมจ่ายเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2562 ถึง กันยายน 2563 (เป็นระยะเวลา 12 เดือน) สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยการโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์(e-Money)
รัฐบาลได้มีมติขยายความช่วยเหลือแก่ผู้ที่มีรายได้น้อย โดยแบ่งเป็น 3 มาตรการด้วยกัน ได้แก่ (1) มาตรการบรรเทาค่าไฟฟ้าให้ผู้มีสิทธิใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (2) มาตรการบรรเทาค่าน้ำประปาให้ผู้มีสิทธิใช้น้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (3) มาตรการชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้กับผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สำหรับมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ผู้มีสิทธิที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว จะได้รับการช่วยเหลือต่อเนื่องทันทีไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า หรือประปา ไม่ต้องลงทะเบียนใช้สิทธิใหม่ ให้ทำตามเงื่อนไขเดิม คือผู้มีสิทธิจะต้องชำระค่าไฟฟ้าและน้ำประปาไปก่อน ตามใบแจ้งหนี้ประจำเดือนที่เรียกเก็บมาจากการไฟฟ้าและการประปา ในเดือนถัดไปหลังจากผู้มีสิทธิชำระเงินตามใบแจ้งหนี้ในช่วง ตุลาคม 2562 ถึง กันยายน 2563 โดยจะโอนเงินจ่ายชดเชยค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ทุกๆ วันที่ 18 ของเดือน เข้าไปยังกระเป๋าเงินอีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ตามจำนวนที่ผู้มีสิทธิได้ชำระไว้ตามจริง แต่ไม่เกิน 230 บาทสำหรับค่าไฟฟ้า และไม่เกิน 100 บาท สำหรับค่าน้ำประปา
ส่วนมาตรการชดเชยเงินจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้เงินชดเชยกับผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะจ่ายเงินชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่มจากข้อมูลภาษี เมื่อผู้มีสิทธิได้ชำระสินค้าหรือบริการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ถึง 30 กันยายน. 2563 ทำการโอนเงินชดเชยเข้าไปยังกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ได้ไม่เกิน 500 บาท ต่อคนต่อเดือน โดยจะโอนให้ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หากตรงกับวันหยุด จะเลื่อนมาเป็นวันทำการก่อนวันหยุด
นี่ก็เป็นอีกความตั้งใจดีๆ ของภาครัฐที่จะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้มีรายได้น้อย
ร้านศาลาไทยไอที http://www.SalaThaiIT.com ก็ต้องขอขอบคุณด้วยกับแนวคิดดีๆ ที่ท่านได้มีนโยบายให้ความช่วยเหลือคนจนอยู่อย่างต่อเนื่อง
ขอขอบคุณข่าวสารดี ๆ จาก
Springnewsเครดิตภาพปกจาก
Sanook
ต้องการซื้อเครื่องอ่านบัตรประชาชน / เครื่องอ่านสมาร์ทการ์ด อย่าลืมร้านศาลาไทยไอที http://www.SalaThaiIT.com มีทุกสิ่งที่ท่านต้องการ
